ข้างบ้านเรือใบ: ก้าวแรกสู่สนามในรอบ 142 วันของ ‘คิงเคฟ’
ความตื่นเต้นของเหล่าชาวแฟนบอล ‘เรือใบสีฟ้า’ ที่มีต่อ ‘ราชาเบอร์ 17’ ในเกมที่เปิดบ้านพบ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ในเกมเอฟ เอคัพ ด้วยชัยชนะ 5-0 ผลงาน 1 แอสซิส ปิดท้ายเกม เป็นอะไรที่จุดประกายความหวังในการลุ้นแชมป์ทุกรายการของทีมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในฤดูกาลนี้
นาทีที่ 57 ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามแทนที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และเจ้าตัวใช้เวลาเพียง 17 นาที ด้วยการวิ่งอ้อมหลัง ริโก้ ลูอิส เพื่อไปเปิดบอลแบบงามๆ ให้รุ่นน้องทีมชาติอย่าง เจเรมี่ โดกู ยิงประตูแบบไม่ต้องจับบอลไปอย่างสวยงามตามท้องเรื่องในนาทีที่ 74 ของการแข่งขัน ถ้าไม่บอกก็คงคิดว่า เควิน เดอ บรอยน์ ชอบเลข 7 อย่างแน่แท้ เพราะดูจากองค์ประกอบทุกอย่างแล้วก็คงหนีไม่พ้นเลข 7
จากที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ได้พูดไว้ว่า ‘แค่เพียงได้เห็น เควิน เดอ บรอยน์ ลงมาวอร์มข้างสนาม เกาะอังกฤษก็สั่นสะเทือน’ จะเป็นการพูดเล่นขำๆ เพื่อเป็นการยกย่องกองกลางชาวเบลเยี่ยมถึงความเก่งกาจ แต่ดูเหมือนว่าแฟนบอลหลายๆทีมอาจไม่รู้สึกเช่นนั้น เพราะแม้แต่ผมที่เป็นแฟนบอลแมนฯ ซิตี้ ยังอดใจที่จะได้เห็น ‘คิงเคฟ’ ลงเล่นเต็มเกมไม่ไหว เพราะเรารู้ถึงความอัจฉริยะของเขาในการเปิดบอล, การวิ่งหาช่อง, การยิงระยะไกล หรือแม้แต่ การเคลือนที่ที่ทำให้คู่ต่อสู้ต้องกลัว จะสามารถช่วยทีมในโค้งสุดท้ายและพาทีมคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง
หลายๆ คนอาจมีความกังวลว่า อาการบาดเจ็บที่ยาวนานของเจ้าตัวจะส่งผลต่อการเล่นหรือไม่ ผมเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ด้วยความเก่งระดับตัวท็อปของโลก ก็คงไม่ใช่เรื่องหน้าแปลกใจ หากเจ้าตัวจะใช้เวลาไม่นานในการคืนฟอร์ม โดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้กล่าวถึง ลูกศิษย์คนโปรดว่า ‘ผมมีความสุขอย่างน่าทึ่งที่ได้เขากลับมา เพราะ เควิน ช่วยให้คุณชนะเกมได้ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าในเกมที่ผ่านมาเขารู้สึกได้ถึงความรักที่แฟนบอลในสนามส่งมาให้และการเคารพยกย่องเหล่านี้มันจะคงอยู่ตลอดไป’
ในฐานะแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ต้องบอกว่าการที่ทีมได้นักเตะอัจฉริยะกลับมาในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ในขณะที่ทีมอื่นๆยังไม่สามารถทำคะแนนทิ้งห่างเราได้มากนัก เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะเหยียบคันเร่งแล้วแซงพวกเขา เพื่อแสดงศักยภาพให้ทุกคนในลีกได้เห็นว่า เควิน เดอ บรอยน์ คือนักเตะที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก…
เขียนโดย The Lite Team